ตำนานดอกบัว
อเมริกาเหนือเป็นต้นกำเนิดของดอกบัวสีเหลืองค่ะ
ตามตำนานของอินเดียนแดงเผ่าดาโกต้า
ดอกบัวเป็นวิญญาณของนางฟ้าซึ่งยอมทิ้งสวรรค์ลงมาเป็นภรรยาของหัวหน้าเผ่าอินเดียนแดงทั้งคู่ครองรักกันอย่างมีความสุขจนกระทั่งมีลูกชายด้วยกันคนหนึ่งจนเมื่อลูกชายโตขึ้น
หัวหน้าเผ่าจึงส่งลูกชายพร้อมภรรยานั่งเรือคานูข้ามทะเลสาบไปขอคำปรึกษาจากผู้รู้ว่าลูกชายคนนี้สมควรจะได้เป็นหัวหน้าเผ่าต่อจากพ่อหรือเปล่า
แต่ระหว่างทางเรือได้ชนเข้ากับโขดหินนางฟ้าจึงตกลงไปในน้ำแล้วหายสาบสูญไป
แต่รุ่งเช้าบริเวณโขดหินนั้นก็มีดอกไม้สีเหลืองงามสดใสเกิดขึ้นมาแทน
ซึ่งก็คือ ดอกบัวนั่นเอง ตามตำนานนี้ดอกบัวจึงมีความหมายถึงการเกิดใหม่
ดอกบัวกับอียิปต์
ชาวอียิปต์จะวางดอกบัวไว้บนหน้าอกของมัมมี่
เพื่อให้คนตายกลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาในอีกหลายร้อยปีข้างหน้า
และในช่วงไว้ทุกข์ญาติของคนตายก็จะถือดอกบัวเอาไว้ด้วย
เพื่อเป็นเคล็ดให้คนตายกลับมาเกิดใหม่เร็วๆ
ดอกบัวกับชาวจีน
ชาวจีนมักจะปลูกดอกบัวไว้ในอ่างเลี้ยงปลาทองเพื่อให้ปลาใช้เป็นที่หลบภัย
ภาพปลาว่ายในกอดอกบัวที่ชาวจีนนิยมวาดกัน จึงมีความหมายถึงความเป็นมลคล ปลอดภัย
ร่ำรวย แต่ถ้าวาดเป็นภาพเด็กชายตัวอ้วนถือดอกบัวจะหมายถึงการอวยพรให้มีลูกชายไว้สืบสกุล
แต่อีกความหมายของดอกบัวมาจากคำสอนในศาสนาพุทธ ที่ว่าคนเราควรทำตัวเหมือนดอกบัว
ถึงแม้จะกำเนิดจากโคลนตมแต่ก็คงคุณงามความดี จนได้เป็นดอกไม้บูชาพระพุทธองค์
ชาวจีนจึงยึดให้ดอกบัวเป็นดอกไม้แห่งความดีอีกอย่างหนึ่งด้วย
ดอกบัวกับอินเดีย
ตำนานของชาวอินเดียเล่ากันว่าวันหนึ่งหน้าผากของพระวิษณุ
ก็มีดอกบัวผุดขึ้นมา และเมื่อบัวนั้นบานก็มีพระลักษมีเทวีประทับอยุ่ข้างใน
พระลักษมีจึงมีชื่อที่แปลว่าดอกบัวหลายชื่อ เช่น ปัทมา,กมลาษณา
และชาวอินเดียก็ถือว่าดอกบัวเป็นเครื่องหมายของการกำเนิดชีวิต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น