ตำนานดอกฟอร์เก็ตมีน็อต
ในบรรดาดอกไม้ที่มีชื่อแสนจะโรแมนติคมากที่สุด
เห็นจะหนีไม่พ้นดอกหญ้าขนาดเล็กจิ๋วที่มีสีเหมือนกับท้องฟ้ากลางฤดูร้อนของ
ประเทศอังกฤษ เพราะดอกไม้ชนิดนี้ใช้บอกความในใจได้ว่า
…. อย่าลืมฉัน
มีเรื่องเล่ากันมาว่า
เมื่อนานมาแล้วตั้งแต่ดอกฟอร์เก็ตมีน็อตยังไม่ได้มีชื่อนี้
มีชายหนุ่มหญิงสาวคู่หนึ่งซึ่งเดาได้ไม่ยากว่าคงเป็นชาวอังกฤษ เพราะหนุ่มสาวคู่นี้ชอบเดินเที่ยวป่า
ระหว่างทางที่ลัดเลาะไปตามลำธารสายเชี่ยวนั้น หญิงสาวเห็นดอกหญ้าสีฟ้าสดใสขึ้นอยู่ตามริมฝั่งแล้วเกิดอยากได้ขึ้นมา
ชายหนุ่มจึงอาสาไปเก็บให้ตามแบบฉบับของพระเอกนิยายที่ควรจะเป็น
แต่ปรากฏว่าชายหนุ่มนี้เกิดซุ่มซ่ามและเหยียบพลาดเข้า
ก็เลยหล่นลงน้ำไปทั้งตัว
อย่างไรก็ตาม ชายหนุ่มไม่ทิ้งลวดลายของความเป็นพระเอก
เขาได้โยนดอกไม้ที่เก็บได้ให้กับหญิงสาวพร้อมกับตะโกนว่า “Forget me not!” ในขณะที่สายน้ำก็ได้พัดพาเอาร่างของเขาออกไปไกลทุกที
ฝ่ายหญิงสาวครั้นได้รับดอกไม้แล้วก็ไม่รอช้า รีบกระโจนลงน้ำและร้องเรียกตามไปเช่นกันว่า “Forget
me not!”
เป็นอันว่าดอกไม้ชนิดนี้ได้ชื่อว่าดอกฟอร์เก็ตมีน็อต ก็ด้วยเหตุฉะนี้แล
ตามที่เล่ากันมานั้น
เรื่องมักจะจบลงที่
หนุ่มสาวคู่นี้หลุดลอยไปกับสายน้ำและไม่มีใครพบเห็นอีกเลย
แต่เพื่อไม่ให้เรื่องนี้กลายเป็นโศกนาฏกรรมไป จึงจะขอเล่าต่อว่า
หลังจากที่สายน้ำไปพัดพาเอาคนทั้งสองขึ้นสู่ฝั่งแล้ว ชายหนุ่มหญิงสาวก็ได้แต่งงานกัน โดยได้เอาดอกไม้ที่พบในวันนั้นมาปลูกในสวนหน้าบ้าน
นับแต่นั้นเป็นต้นมาดอกไม้ชนิดนี้จึงถูกขนานนามว่า
“Forget me not!”
ถึงแม้จะเป็นดอกไม้ที่มีคนรู้จักกันมากที่สุดชนิด
หนึ่ง
แต่ดอกฟอร์เก็ตมีน็อตก็เป็นพันธุ์ไม้ที่จำแนกได้ยากมากอีกชนิดหนึ่ง เพราะในกลุ่มนี้มีดอกที่ลักษณะคล้ายคลึงกันถึง
7
ชนิด โดยต่างกันที่ใบและพุ่มต้น
ส่วนดอกนั้นมีขนาดและรายละเอียดบางประการเกือบจะใกล้เคียงกัน
ดอกฟอร์เก็ตมีน็อตเป็นดอกไม้ที่สวยงามมีความหมายมากๆ
และนีก็ชอบมากเลยทีเดียว ชอบทั้งความสวยงามของดอกและตำนานอันแสนโรแมนติก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น