วันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2555


ตำนานดอกฟอร์เก็ตมีน็อต

ในบรรดาดอกไม้ที่มีชื่อแสนจะโรแมนติคมากที่สุด  เห็นจะหนีไม่พ้นดอกหญ้าขนาดเล็กจิ๋วที่มีสีเหมือนกับท้องฟ้ากลางฤดูร้อนของ ประเทศอังกฤษ  เพราะดอกไม้ชนิดนี้ใช้บอกความในใจได้ว่า …. อย่าลืมฉัน
มีเรื่องเล่ากันมาว่า  เมื่อนานมาแล้วตั้งแต่ดอกฟอร์เก็ตมีน็อตยังไม่ได้มีชื่อนี้  มีชายหนุ่มหญิงสาวคู่หนึ่งซึ่งเดาได้ไม่ยากว่าคงเป็นชาวอังกฤษ  เพราะหนุ่มสาวคู่นี้ชอบเดินเที่ยวป่า
ระหว่างทางที่ลัดเลาะไปตามลำธารสายเชี่ยวนั้น  หญิงสาวเห็นดอกหญ้าสีฟ้าสดใสขึ้นอยู่ตามริมฝั่งแล้วเกิดอยากได้ขึ้นมา  ชายหนุ่มจึงอาสาไปเก็บให้ตามแบบฉบับของพระเอกนิยายที่ควรจะเป็น  แต่ปรากฏว่าชายหนุ่มนี้เกิดซุ่มซ่ามและเหยียบพลาดเข้า ก็เลยหล่นลงน้ำไปทั้งตัว

อย่างไรก็ตาม  ชายหนุ่มไม่ทิ้งลวดลายของความเป็นพระเอก  เขาได้โยนดอกไม้ที่เก็บได้ให้กับหญิงสาวพร้อมกับตะโกนว่า “Forget me not!”  ในขณะที่สายน้ำก็ได้พัดพาเอาร่างของเขาออกไปไกลทุกที   ฝ่ายหญิงสาวครั้นได้รับดอกไม้แล้วก็ไม่รอช้า  รีบกระโจนลงน้ำและร้องเรียกตามไปเช่นกันว่า “Forget me not!”
เป็นอันว่าดอกไม้ชนิดนี้ได้ชื่อว่าดอกฟอร์เก็ตมีน็อต  ก็ด้วยเหตุฉะนี้แล
ตามที่เล่ากันมานั้น เรื่องมักจะจบลงที่  หนุ่มสาวคู่นี้หลุดลอยไปกับสายน้ำและไม่มีใครพบเห็นอีกเลย  แต่เพื่อไม่ให้เรื่องนี้กลายเป็นโศกนาฏกรรมไป  จึงจะขอเล่าต่อว่า  หลังจากที่สายน้ำไปพัดพาเอาคนทั้งสองขึ้นสู่ฝั่งแล้ว  ชายหนุ่มหญิงสาวก็ได้แต่งงานกัน  โดยได้เอาดอกไม้ที่พบในวันนั้นมาปลูกในสวนหน้าบ้าน
นับแต่นั้นเป็นต้นมาดอกไม้ชนิดนี้จึงถูกขนานนามว่า “Forget me not!”

ถึงแม้จะเป็นดอกไม้ที่มีคนรู้จักกันมากที่สุดชนิด หนึ่ง  แต่ดอกฟอร์เก็ตมีน็อตก็เป็นพันธุ์ไม้ที่จำแนกได้ยากมากอีกชนิดหนึ่ง   เพราะในกลุ่มนี้มีดอกที่ลักษณะคล้ายคลึงกันถึง 7 ชนิด โดยต่างกันที่ใบและพุ่มต้น ส่วนดอกนั้นมีขนาดและรายละเอียดบางประการเกือบจะใกล้เคียงกัน

ดอกฟอร์เก็ตมีน็อตเป็นดอกไม้ที่สวยงามมีความหมายมากๆ และนีก็ชอบมากเลยทีเดียว ชอบทั้งความสวยงามของดอกและตำนานอันแสนโรแมนติก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น